CGD Internet
การแสดงผล C C C

ข้อมูลสำนักงานคลัง

ระบบงาน

ประวัติความเป็นมา
            ในปี พ.ศ. 2418 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ปรับปรุงระบบบริหารราชการแผ่นดิน โดยตั้งกรมต่างๆ ขึ้นรับผิดชอบบริหารราชการรวม 12 กรม แทนการปกครองแบบจตุสดมภ์ ซึ่งเคยใช้มาแต่โบราณ โดยมีกรมพระคลังมหาสมบัติเป็นกรม 1 ใน 12 กรม พร้อมกับโปรดเกล้าฯ ให้ตรา “พระราชบัญญัติสำหรับกรมพระคลังมหาสมบัติแลว่าด้วยกรมต่างๆ ซึ่งจะเบิกเงินส่งเงิน” เพื่อรับผิดชอบว่าการบรรดาภาษีอากร และเงินที่จะรับจะจ่ายในแผ่นดินทั้งสิ้น และบัญญัติกำหนดอำนาจหน้าที่ของปลัดบาญชีกลาง ในหมดมาตราที่ 3 ของพระราชบัญญัติดังกล่าว สำหรับเป็นพนักงานที่จะว่าภาษีอากรและรักษาสมุดบัญชีเงินของแผ่นดิน
           ปี พ.ศ. 2433 กรมพระคลังมหาสมบัติได้รับการยกฐานะเป็นกระทรวงตามพระราชบัญญัติพระธรรมนูญการปกครองแผ่นดิน กิจกรรมบ้านเมืองในระยะนั้นก็เจริญก้าวหน้ามากขึ้น จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติพระธรรมนูญหน้าที่ราชการในกระทรวงพระคลังมหาสมบัติขึ้นเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ร.ศ.109 (พ.ศ.2433) กำหนดให้กระทรวงพระคลังมหาสมบัติมีหน้าที่สำหรับรับ สำหรับจ่ายและรักษาเงินแผ่นดินทั้งสรรพราชสมบัติ พัสดุทั้งปวงกับถือบัญชีพระราชทรัพย์สำหรับแผ่นดินทั้งสิ้น และเก็บภาษีอากรเงินขึ้นแผ่นดินตลอดทั่วพระราชอาณาจักร มีเสนาบดีรับผิดชอบบังคับราชการในกระทรวง
           กรมสารบาญชี เป็นกรมเจ้ากระทรวงกรมหนึ่ง มีหน้าที่สำหรับจ่ายเงินแผ่นดินและถือสารบาญชีพระราชทรัพย์ทั้งสิ้น โดยผลแห่งพระราชบัญญัติพระธรรมนูญหน้าที่ราชการในกระทรวงพระคลังมหาสมบัติวันที่ 7 ตุลาคม 2433 จึงนับเป็นวันก่อตั้งกรม และในปีเดียวกันนั้นพระบามสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชดำริว่า พระราชบัญญัติพระธรรมนูญกำหนดหน้าที่ราชการในกระทรวงพระคลังมหาสมบัติกำหนดหน้าที่และแบ่งส่วนราชการ ในกรมสารบัญชีไว้กว้างๆ มิได้แยกออกเป็นกองให้เป็นสัดส่วนเพียงพอกับประมาณงานที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น จึงโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติกรมสารบาญชีขึ้นเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม ร.ศ.109 (พ.ศ.2433) กำหนดหน้าที่และแบ่งกรมสารบาญชีออกเป็น 3 กอง คือ กองบาญชีกลาง กองรับและกองจ่าย กับที่นายเวร 4 คือ เวรรับ เวรจ่าย เวรเกณฑ์ และเวรบาญชี
           ปี พ.ศ.2458 พระบามสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 โปรดเกล้าฯ ได้กำหนดหน้าที่ใหม่และให้ชื่อ กรมบาญชีกลาง เมื่อวันที่ 18 กันยายน พ.ศ.2458 จนถึงสมัยเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์เป็นระบบรัฐธรรมนูญ คณะกรรมการราษฎรจึงปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม ต่างๆ และประกาศพระราชกฤษฎีกาจัดวางระเบียบกรมในกระทรวงการคลัง เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ.2476 ระบุนาม กรมบาญชีกลางเป็น “กรมบัญชีกลาง” ตั้งแต่บัดนั้น
           จนถึง พ.ศ. 2475 ซึ่งเป็นปีที่มีการเปลี่ยนแปลงระบบการปกครอง คณะกรรมการราษฎรได้ปรับปรุงงานของกระทรวง ทบวง กรมต่างๆ ใหม่ สำหรับงานในหน้าที่ของกรมบัญชีกลางนั้น มีพระราชกฤษฎีกาการจัดวางระเบียบกรมในกระทรวงการคลังเปลี่ยนชื่อเป็นกรมบัญชีกลาง แบ่งส่วนราชการของกรมเป็นราชการบริหารส่วนกลางและส่วนภูมิภาค รับผิดชอบตรวจสอบควบคุมการรับจ่ายเงินของส่วนราชการต่างๆ ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค โดยแบ่งราชการบริหารส่วนกลางออกเป็น 4 กอง คือ กองกลาง กองเงินเดือน กองค่าใช้สอยและการจร และกองประมวลบัญชี เพื่อรับผิดชอบงานหลักของกรมที่เหลืออยู่ในขณะนั้น คือ การควบคุมงบประมาณ การตรวจจ่ายเงินประเภทต่างๆ รวมทั้งควบคุมการรับเงินรายได้แผ่นดิน การทำบัญชีและรายงาน ตลอดจนการให้บริการด้านแนะนำและวางรูปบัญชีแก่ส่วนราชการ
           สำหรับราชการบริหารส่วนภูมิภาค ตั้งคลังจังหวัดรับผิดชอบควบคุมการรับและจ่ายเงิน ตลอดจนทำบัญชีและรายงานต่าง ๆ เสนอกรม และในปี พ.ศ.2516 ได้เปลี่ยนชื่อคลังจังหวัดเป็น “สำนักงานคลังจังหวัด”
           สำนักงานคลังจังหวัดสุรินทร์ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2452 รวมระยะเวลา 105 ปี มีคลังจังหวัดจำนวน 31 คน โดยนายศิริ เป็นคลังจังหวัดคนแรก ดำรงตำแหน่งระหว่าง พ.ศ.2452-2454 และนางดวงใจ โชติบัญชา คลังจังหวัดสุรินทร์ ลำดับที่ 31 ดำรงตำแหน่งระหว่าง พ.ศ.2565 ถึงปัจจุบัน
           ปัจจุบันสำนักงานคลังจังหวัดสุรินทร์มีที่ตั้งสำนักงานอยู่ภายในศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ มีบุคลากรจำนวน 20 คน แบ่งเป็นข้าราชการ 16 คน ลูกจ้างประจำ 1 คน พนักงานราชการ 2 คน และลูกจ้างชั่วคราว 1 คน
 
จำนวนผู้เข้าชม วันนี้ 763 คน
(จากผู้เข้าชมทั้งหมด 3,521,349 คน)